ลำโพง Bosch กับ BOSE เลือกของแบรนด์ไหนดีกว่ากัน

iTopPluspicc

สำหรับใครที่กำลังสับสน และไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อลำโพงแบรนด์ไหนไว้ใช้งานดี ระหว่างลำโพง Bosch กับ BOSE ฟังทางนี้!! เพราะเราได้นำข้อมูลของลำโพงทั้ง Bosch กับ BOSE ทุกซอกทุกมุมมาให้ทุกคนได้ศึกษากันแล้ว ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง แบรนด์ไหนจะน่าซื้อมาใช้งานกว่ากัน อย่ามัวรอช้า ไปดูกันเลยดีกว่า

ลำโพง Bosch LHM – 0626/00

ลำโพง Bosch ที่เรานำมาเปรียบเทียบเป็นรุ่น LHM – 0626/00 ลำโพงคู่ติดเพดานแบบประหยัดกินไฟแค่ 6 วัตต์เท่านั้น สามารถใช้กระจายเสียงทั้งที่โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ที่มีผู้คนจำนวนมากได้ ด้วยเสียงจากลำโพงที่ชัดเจน มีแผ่นกันการรบกวนซึ่งทำจากโลหะสีขาวอย่างดี การติดตั้งก็ง่ายมากเพียงแค่นำลำโพงยึดกับสกรูที่ให้มาด้วยแล้วเจาะลงไปบนเพดาน ฝาผนัง ที่รูของลำโพงจะมีขนาด 165 มม. มีการตั้งค่าเสียงที่พูดผ่านลำโพงไว้แล้ว จึงไม่ทำให้เสียงดังเกิดความรำคาญ ระดับความดังเสียงอยู่ที่ 1 W (1 kHz, 1 m) 99 dB / 91 dB (SPL) และ 1 W (4 kHz, 1 m) 104 dB / 96 dB ขนาดก็ไม่ใหญ่มากตังเครื่องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7.8 นิ้ว ส่วนบริเวณลำโพงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว หนัก 900 กรัม ราคาก็เบาๆ เพียง 900 บาท

ลำโพง BOSE รุ่น Soundlink Mini Bluetooth Speaker II ยอดนิยม

ส่วนลำโพง BOSE รุ่น Soundlink Mini Bluetooth Speaker II เป็นลำโพงพกพาขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งด้านหลังจะมีปุ่มต่างๆ ไว้ใช้งานอย่าง ปุ่มเปิด/ปิด ปุ่มเล่น/หยุดเพลง ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ทั้งยังมีปุ่มที่สามารถรับโทรศัพท์ได้ และช่องไว้เสียบแฟรชไดร์ฟเพลง หรือสาย USB ต่างๆ 8 อุปกรณ์ ด้านล่างฐานก็จะทำด้วยยาง เพื่อยึดไม่ให้ลำโพงลื่นไปมาขณะที่เรากดปุ่มอยู่จนหล่นเสียหาย นอกจากนี้ยังเป็นลำโพงที่ชาร์จแบตเก็บไว้ได้นาน 10 ชม. และถ้าใช้งานเกิน 24 วัน แบตก็จะปิดไปเองไม่ทำให้เกิดแบตเสื่อม ส่วนเสียงที่ออกมาจะมีความละมุนไม่ว่าจะเสียงกลาง เสียงสูง เสียงเบส ฯลฯ ทำให้เพลงที่ฟังไพเราะสุดๆ คุ้มๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบฟังเพลงผ่านลำโพงพกพาสามารถซื้อได้ในราคา 9,400 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างระหว่างลำโพง Bosch กับ BOSE ที่ได้นำมา แตกต่างกันมากเลยใช่ไหมล่ะ ซึ่งหากใครต้องการลำโพงราคากำลังดี ติดตั้งไปกับผนัง เพดานเลย ไว้กระจายเสียงให้คนหมู่มาก ก็เลือกลำโพง Bosch หากใครต้องการลำโพงพกพา ไว้ฟังเพลงเพราะๆ รับสายเรียกเข้าได้ ไม่เกี่ยงเรื่องราคา ก็เลือกลำโพง BOSE แต่ทางที่ดีเราควรเลือกซื้อแบรนด์ที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากที่สุด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ไม่มาเสียดายเงินทีหลัง

 

 

Yamaha review

เครื่องเสียง yamaha ความคมชัดของเสียง ราคาจับต้องได้

เครื่องเสียงปัจจุบันนี้กลายเป็นเครื่องอำนวยความสะดวก และสร้างความสุขอีกเครื่องหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในบ้าน เพราะมันจะช่วยให้เอนเตอร์เทนในบ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีวี วิทยุ ดูหนัง ฟังเพลง จะได้อรรถรสมากขึ้น ตอนนี้ตลาดเครื่องเสียงมีมากมายหลายยี่ห้อ หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ยามาฮ่า แบรนด์ที่ได้รับความนิยมด้านนี้มานาน นอกจากเครื่องดนตรีเค้าก็เด่นเรื่องนี้ด้วย

เครื่องเสียง Yamaha ดียังไง

สำหรับเครื่องเสียงของ ยามาฮ่า นั้นเราขอแบ่งออกเป็นสองเรื่องตามลักษณะการใช้งาน หากเรานำเครื่องเสียงนี่มาฟังเพลงนี่บอกเลยว่าแจ่มมาก เสียงเบส เสียงแหลม เสียงคนร้องทำออกมาดีมาก ฟังได้เพลินเลยทีเดียว ยิ่งเป็นเพลงแจ๊ส หรือ เพลงออเครสตราแบบเต็มวงนี้ สุนทรียภาพทางดนตรีของแท้เลย (ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับไฟล์เพลงต้นฉบับด้วยนะถ้าไฟล์ไม่ดี หรือ เก่ามากยังไงเครื่องเสียงก็ยกระดับเพลงได้ไม่สุด) สองแต่หากเราเอาไปดูหนัง ดูละคร ดูซีรีย์ ต้องบอกว่าเครื่องเสียงยามาฮ่า อาจจะไม่ว้าวเท่าไร แต่ก็ทำออกมาได้ดีนะ ฟังสบายหูทีเดียวแหละ อันนี้ก็ต้องชั่งใจกันดู

ฟังก์ชั่น ไม่แตกต่างกัน

ด้านฟังก์ชั่นการทำงาน เครื่องเสียง Yamaha นี่ก็อยู่ในระดับโอเคนะ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ทั่วไปมีครบหมดตอบสนองยุคปัจจุบัน (อันนี้หมายถึงเครื่องเสียงตัวใหม่ที่ออกมานะ) ไม่ว่าจะเป็นระบบการฟังเพลงผ่านไวไฟ ระบบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือ ระบบเสียง Atmos ของแบบนี้มีหมด อาจจะมีบ้างที่มีฟังก์ชั่นพิเศษแตกต่างออกไปจากแบรนด์อื่น แต่มันอาจจะได้ใช้ในกรณีที่เรามีความรู้เฉพาะทางด้านเสียงจริงๆ หากเป็นมือสมัครเล่นก็อาจจะไม่ได้สนใจเท่าไร

บุคลิกของเสียง

สิ่งที่ทำให้เราเลือกเครื่องเสียงจาก Yamaha นอกจากดีไซน์งานที่ออกมาสวยงามน่าใช้ บุคลิกภาพของเสียงก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจเหมือนกัน เพราะเสียงจาก Yamaha นั้นให้เสียงแตกต่างจากแบรนด์อื่นพอสมควร เสียงของยามาฮาเองเค้ามีจุดเด่นเรื่องซาวด์เอฟเฟกต์ที่ทำออกมาได้ดีมาก เสียงดูฟิ้วฟ้าว เร้าใจดี ด้านเสียงเบสของเค้าดีจริง เบสแน่นมาก เสียงดังตุบ ตุบ ตุบ ตามจังหวะเพลงกันเลยทีเดียว ส่วนเสียงแหลมก็พอได้ อาจจะมีแกว่งบ้างบางจังหวะ ส่วนเสียงร้องก็เด่นมาก สมกับเป็นเครื่องเสียงที่มีความถนัดด้านเครื่องดนตรีด้วย

เอาเป็นว่าเครื่องเสียง ยามาฮ่า เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่เราคุ้นเคยกับเค้าดีมากมาตั้งแต่เป็นเครื่องดนตรีแล้ว ดังนั้นหากคิดจะซื้อเครื่องเสียงสักชุด อยากให้ลองฟังเครื่องเสียงแบรนด์นี้ก่อน น่าจะ

Bose 500 Home

เครื่องเสียงขั้นเทพคุณภาพเสียงระดับโลก Bose : Home Speaker 500

ในปัจจุบันนี้ Smart speaker เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีเพิ่มขึ้นมากขึ้น ในท้องตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยคุณสมบัติของมันเป็นมากกว่าลำโพงทั่วๆ ไป โดยมันได้รวมรวมเอาเทคโนโลยี Voice assistant เข้าไปอยู่ในตัวลำโพงด้วย และหนึ่งในแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก ก็ได้หันมาพัฒนา Smart speaker ด้วยและแบรนด์นั้นก็คือ Bose จากประเทศสหรัฐอเมริกา

Smart speaker จาก Bose : Home Speaker 500

ในปี 2019, Bose ได้เผยโฉมลำโพงอัจฉริยะรุ่น Home Speaker 500 ออกมาอย่างเต็มรูปแบบ ลำโพงรุ่นนี้ คือ ลำโพงอีกกลุ่มที่ Bose ได้ขยับขยายเพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มสินค้าประเภทเดิม ด้วยความที่เป็น Smart speaker ทางผู้ผลิตจึงนำเสนอโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง ไม่น้อยไปกว่าคุณสมบัติในด้านอื่นๆ เลย

โดยมีการออกแบบให้ Home Speaker 500 สามารถออกเสียง Stereo แบบแยกซ้าย-ขวาได้ด้วยการบรรจุ Full range driver ด้วยดีไซน์แบบ Custom driver 2 ตัว ยิงเสียงออกไปยังด้านข้าง ด้วยการให้มวลคลื่นเสียงออกไปสะท้อนผนังห้องด้วยเทคโนโลยี Wall-to-wall stereo sound อันเป็นเอกลักษณ์ของ Bose

โดย Bose ยังออกมากล่าวว่าลำโพงรุ่นนี้เป็น Smart speaker ให้เวทีเสียงได้กว้างมาก จากลำโพงเล็กๆ เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นกล่าวอีกว่า ตัวลำโพงยังสามารถเสียงกระจายออกไปรอบทิศทางแบบ 360 องศา

นอกจากส่วนที่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ยังมีส่วนที่รับเสียงเข้าไปได้ จากการใช้ไมโครโฟนทั้ง 8 ตัวซึ่งวางเรียงรายอยู่บริเวณด้านบนรอบตัวเครื่อง สามารถรับคำสั่งเสียงของผู้ใช้งาน ได้จากทุกทิศทางเพื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี Amazon Alexa โดยในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน Platform Voice assistant หรือออกคำสั่งด้วยเสียง ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้น อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ iOT และอุปกรณ์ Smart home จำนวนมากมายที่รองรับการใช้งาน Bose : Home Speaker 500

และลำโพงรุ่นนี้ยังสามารถควบคุมคำสั่งงาน ได้จากปุ่มสัมผัสที่อยู่ด้านบนตัวลำโพงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิด,การใช้งาน, เลือกปิดการทำงานของไมโครโฟน, การเลือก Input AUX พร้อมปุ่มฟังก์ชัน Bluetooth, สั่งเล่นหรือหยุดเพลง เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถสั่งข้ามเพลงไปข้างหน้าหรือย้อนหลัง ด้วยการกดติดต่อกัน 2 หรือ 3 ครั้ง อีกทั้งยังมีปุ่มตั้งค่า Preset เพลงต้องการฟัง ซึ่งจุดนี้ได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ลำโพงยุคใหม่ของ Bose ไปแล้ว สรุปแล้ว Home Speaker 500 มีความ Premium เหนือ Smart speaker อื่นๆ หลายต่อหลายตัวเลยทีเดียว โดยมีความ Premium ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงดีไซน์ตัวลำโพงรวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ นับว่าเป็นลำโพงที่น่าใช้ไม่ว่าจะสำหรับนักฟังเพลง หรือแม้แต่นักสั่งของออนไลน์

Bose Soundsport Free Sports

หูฟัง Bose Soundsport Free สำหรับคนออกกำลังกาย

‘Bose Soundsport Free’ หูฟังจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง ‘Bose’ ที่มีนักฟังเพลงมากมายที่กำลังรอคอยการเปิดตัวหูฟังรุ่นนี้จำนวนมาก

อุปกรณ์ที่ใส่มาในกล่อง Bose Soundsport Free

  • หูฟัง Bose Soundsport 1 คู่
  • เคสเก็บสายชาร์จไฟ 1 ชิ้น
  • จุกหูฟัง 3 ขนาด S, M, L
  • สาย USB สำหรับชาร์จไฟ 1 เส้น

Bose Soundsport Free สร้างมาเพื่อคนออกกำลังกายโดยเฉพาะ

หูฟังมีน้ำหนักข้างละ 14 กรัม มีน้ำหนักกำลังสบายหู โดยจุกหูฟังมีส่วนผสมของเทคโนโลยี StayHear+ ซึ่งมีขาเกี่ยวมาพร้อมกับจุกหูฟัง เพื่อเพิ่มความกระชับ ทำให้หูฟังไม่ร่วงหลุดออกมาจากรูหูง่ายๆ ถึงแม้คุณจะขยับร่างกายขณะออกกำลังกายอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเดิน, วิ่ง, เวท, กระโดดเชือก รวมทั้งท่าทางต่างๆ อีกมากมาย ก็ยังคงติดหนึบกระชับไม่ร่วงหลุดอย่างแน่นอน เคสมีน้ำหนัก 70 กรัม, มีรูปทรงกลมรี พกพาได้อย่างง่ายดาย, อีกทั้งยังมีความสะดวก เรียกได้ว่าประหยัดพื้นที่ในกระเป๋ามาก ถูกใจคนไม่ชอบพกของหนัก

Bose Soundsport Free มาพร้อมกับแบตเตอรี่ชนิด lithium – ion ใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุด 5 ชั่วโมง/การชาร์จ 1 ครั้ง และการชาร์จ 1 ครั้งใช้เวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น วางทิ้งไว้เพลินๆ ก็นำมาใช้ได้แล้ว โดย Bose Soundsport Free ได้นำระบบ Quick Charge ซึ่งใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 15 นาที ก็ใช้งานได้นานถึง 45 นาที พอเหมาะกับการออกกำลังกายระยะสั้น เคสนำมาชาร์จหูฟังได้นานถึง 10 ชั่วโมง ! ตอบความต้องการของผู้ใช้งานที่นำไปออกกำลังกาย, ทำงาน, หรือ ทำกิจกรรมนอกบ้านได้ เคสมีปุ่มกดตรงด้านหน้า เพื่อใช้ตรวจดูสถานะแบตเตอรี่ ที่คงเหลืออยู่ด้วยไฟ LED บริเวณเคสจะมีไฟแสดงสถานะชาร์จไฟทั้งซ้ายและขวา

คุณภาพเสียงของ Bose Soundsport Free

  • เบส : มีเนื้อเบสซึ่งมีมวลมาก, หนานุ่ม มีแรงกระถอกที่ดี มอบความสบายในการรับฟัง
  • ร้อง : ย่านเสียงกลางจะออกไปทางหวานเจี๊ยบ ในส่วนของสียงร้อง, Dynamic ของเสียงร้อง, เสียงลูกคอ หรือ แม้เสียงลมหายใจของนักร้อง ก็สื่อออกมาได้อย่างครบถ้วน
  • แหลม : เสียงย่านแหลมก็ทำออกมาได้ดี เนื่องจากเสียงแหลมที่ออกมานั้นมีความชัดและใส มีปลายแหลมที่สะอาด ไม่พลุ่งพล่านจนกระทั่งแสบหู เมื่อฟังในระยะเวลานาน ก็ฟังได้อย่างเพลิดเพลิน

เวทีเสียง : มีการปรับเวทีเสียงมาในขนาดปานกลางตามรูปแบบหูฟัง IEM ความห่างของชิ้นดนตรีในแต่ละชิ้นอยู่ในระยะกำลังพอดี โดยเมื่อลองฟังแล้วสามารถแยกชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังให้บรรยากาศทั้งด้านกว้างและลึกของเสียงได้อย่างมีมิติ

Trip to pay homage to 9 temples Chachoengsao

ลุยวันหยุดไปกับทริปไหว้พระ 9 วัด ฉะเชิงเทรา

สำหรับวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะพาครอบครัวไปที่ไหนดี เราขอแนะนำทริปสายบุญ ‘ไหว้พระ 9 วัด ในจังหวัดฉะเชิงเทรา’ โดย ‘เมืองแปดริ้ว’ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น

สายบุญ ทริปไหว้พระ 9 วัด ใน 1 วัน จังหวัดฉะเชิงเทรา

  1. วัดโสธรวรารามวรวิหาร

เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ‘หลวงพ่อโสธร’ ฝีมือช่างล้านช้าง ท่านเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวแปดริ้วมาอย่างช้านาน มีประวัติเล่าว่าท่านเป็นพระพุทธรูปทีลอยทวนขึ้นน้ำมา จนกระทั่งมีผู้อัญเชิญท่านมาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ ในปี พ.ศ. 2313 สมัยต้นกรุงธนบุรี

  1. วัดจีนประชาสโมสร หรอ วัดเล่งฮกยี่

วัดจีนที่ปฏิบัติตามหลักความเชื่อของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งขยับขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯมหานคร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งท่านเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรี ชื่อภาษาจีนของวัด คำว่า ‘ฮก’ แปลว่า โชคลาภ ส่วนคำว่า ‘เล่ง’ หมายถึง มังกร เมื่อนำมารวมกันจึงแปลได้ว่า มังกรแห่งโชค นั่นเอง

  1. วัดโพธิ์บางคล้า

วัดแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2310-2325 สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ปรากฏให้เห็นถึงศิลปะอยุธยากับรัตนโกสินทร์ผสมผสานรวมกันได้อย่างลงตัว ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางไสยาสน์ นอกจากนี้คุณสามารถรับชมค้างคาวแม่ไก่ซึ่งเกาะอยู่ตามต้นไม้ภายในวัดได้ด้วย

  1. วัดสมานรัตนาราม

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง มีองค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย และบริเวณรอบๆ ฐานจะประกอบด้วยพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ประดิษฐานอยู่ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากการมากราบไหว้ด้วยหัวใจอันเปี่ยมไปด้วยศรัทธาแล้ว คุณจะยังได้รับชมทัศนีย์ภาพของแม่น้ำบางปะกงอีกด้วย

  1. วัดชมโพธยาราม

มีจุดเด่น คือ เป็นวัดแห่งเดียวในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งก่อสร้างสังเวชนียสถานให้พุทธศาสนิกชนได้กราบนมัสการครบทั้ง 4 ตำบล ได้แก่…

  • สถานที่พระพุทธเจ้าประสูติ หรือ ‘ลุมพินี’
  • พุทธิยาเจดีย์ตรัสรู้ เจดีย์สีเหลืองทองอร่าม มีความสวยงาม อันหาชมได้ยากยิ่ง
  • เจดีย์ปฐมเทศนา ณ เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย
  • สถานที่ปรินิพพาน
  1. วัดอุภัยภาติการาม

วัดญวนลัทธิมหายาน เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต หรือ เจ้าพ่อซำปอกง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีชาว ฮ่องกง, สิงคโปร์ และไต้หวัน เดินทางมานมัสการกราบไหว้อยู่เป็นประจำ

  1. เจ้าแม่กวนอิมลอยน้ำ

เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ มีความสูง 119 เซนติเมตร, น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ในมือของเจ้าแม่กวนอิมถือคัมภีร์อยู่ อันสื่อถึงการสั่งสอนมนุษย์ทุกชนชั้นวรรณะ แห่ง มูลนิธิสว่างศรัทธาธรรม

  1. วัดเขาดิน

เป็นวัดที่มีธรรมชาติสวยงามอันโดดเด่น อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งยังรักษาสภาพธรรมชาติ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยความสวยงามนี้นี่เอง ทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นสำนักงานปฏิบัติธรรม พร้อมเจริญวิปัสสนากรรมฐาน แห่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. 2546

  1. วัดสัมปทวนนอก

มีภาพปูนปั้นประวัติความเป็นมาของชาวฉะเชิงเทรา ได้อย่างน่าดูชม เกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างพระอุโบสถ ในปี พ.ศ. 2479 แต่เสร็จในปี พ.ศ. 2496 เพราะสะดุดกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพปูนปั้นแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถ บอกเล่าความเป็นมาของเมืองฉะเชิงเทรา รวมทั้งสภาพชีวิตของผู้คนของแม่น้ำบางปะกง ได้ออกมาสวยงาม

Introduce speakers SKG

ลำโพง skg สุดยอดลำโพงตั้งพื้นแห่งยุค

บริษัท SKG Electric Group (ประเทศไทย) จำกัด หรือหลายๆ คนรู้จักกันดีในชื่อ ‘SKG’ เป็นผู้ดำเนินกิจการด้านนำเข้าพร้อมทั้งจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้านานาชนิด เช่น โทรศัพท์มือถือ, TV, ลำโพง, VCD, DVD, เตารีด, เตาแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก หากแต่ SKG มีชื่อเสียงในเรื่องของลำโพงมากที่สุด

ลำโพง SKG เป็นหนึ่งในเรื่องลำโพงตั้งพื้น

สำหรับผู้ที่รักเสียงเพลง ‘ลำโพง’ ก็จัดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ในการมอบความบันเทิงให้แก่ชีวิตในแต่ล่ะวัน บางครั้งคุณอาจผิดหวังกับลำโพงที่มีราคาสูง แต่ให้เสียงตามคาดหวังไว้ไม่ได้ หรือ พังง่าย เพราะความเป็นจริงแล้ว ‘ราคา’ อาจไม่ได้ตอบรับกับคุณภาพเสมอไป หากแต่ลำโพงของ SKG นั้นมีมากมายหลายตัว ในแต่ล่ะตัวก็มีเอกลักษณ์การใช้งานที่แตกต่างกัน และเรื่องที่หลายๆ คนปลาบปลื้มมากที่สุด ก็คือ มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ

แนะนำลำโพงตั้งพื้น SKG ที่มีคุณภาพดี

SKG ลำโพงตั้งพื้น 10นิ้ว 6000W รุ่น AV-7011 PA-2 สีดำ

ลำโพงของ SKG ที่มีขนาดใหญ่ ถึง 10 นิ้วด้วยกัน มาพร้อมกำลังเสียงดี แลเสียงไม่แตก ลำโพงดังกระหึ่มดังลั่นไปทั้งซอย ถ้าคุณเปิดจนสุด สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้ จึงไม่จำเป็นต้องต่อสายให้เกะกะ อีกทั้งยังมีช่องเสียบ USB สามารถเล่นเพลง MP3 ยังมีช่องเสียบไมค์จำนวน 2 ช่อง ไม่ว่าคุณจะนำไปตั้งเล่นเพลงบ้านหรือที่กลางแจ้ง ก็มีความแข็งแรงทนทาน รับประกันยาวนานถึง 1 ปี !!

คุณสมบัติพิเศษของลำโพงตั้งพื้น SKG 10นิ้ว 6000W รุ่น AV-7011 PA-2 สีดำ

  • เชื่อมต่อ Bluetooth ได้
  • Woofer : 10″ x2
  • TREBLE : 4″ x2
  • POWER OUTPUT : 20W x2
  • FREQUENCY RESPONSE: 40Hz-20KHz
  • SENSITIVITY: 80 dB
  • กำลังขับ : 6,000 W (P.M.P.O)

ราคา 1,990 บาท

SKG ลำโพงตั้งพื้น 10 นิ้ว 8000W รุ่น AV-7018 PA BT สีดำ

มาพร้อมกับความเสียงกระหึ่มสะใจ สำหรับคนที่ชื่นชอบชมภาพยนตร์ขอบอกเลยว่าเสียงดีมาก และสำหรับคนที่ซ้อมาซ้อมเต้น SKG ลำโพงตั้งพื้น 10 นิ้ว 8000W รุ่น AV-7018 PA BT สีดำ ให้เสียงและจังหวะดีมากเช่นเดียวกัน เบสแน่น ตึ๊บสั่นสะเทือนไปถึงบ้านหลายหลังที่อยู่ติดกัน สำหรับรุ่นนี้มีจุดเด่น คือ ถ้าคุณนำมาต่อกับกล่อง TV, Smart Phone หรือ กล่อง Android ต่างๆ เจ้าลำโพง 10 นิ้วตัวนี้สามารถเพิ่มความดังกับความไพเพราะเพราะพริ้งได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอน

  • มีกำลังขยายถึง 8000 w x2 (P.M.P.O)
  • WOOFER : 10 นิ้ว x 2
  • MIDDLE : 8 นิ้ว
  • สามารถปรับเป็นเสียง ECHO ได้
  • รองรับ FM, USB, SD, MMC Card
  • ช่องเสียบไมค์ 2 ช่อง
  • เชื่อมต่อ Bluetooth ได้
  • มาพร้อมยางหุ้มมุมลำโพง เพื่อป้องกันแรงกระแทก อย่างดีทั้งหมด 8 มุม
  • รับประกันยาวนานถึง 1 ปี !!

ราคา 3,990 บาท

Aconatic AN-SP560 Review

ลำโพง Aconatic AN-SP560 ที่สุดแห่งความคุ้มค่า

Aconatic คือ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่เข้ามาตีตลาดในประเทศไทย จำหน่ายทั้งเครื่องเสียง, Home Therter, LCD TV, เครื่องเล่น DVD, เครื่องเล่น DVD พกพาได้, เครื่องเล่นเพลงMP 3 Aconatic คือ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จัดจำหน่ายโดย บริษัท HIFI Orient Thai Public Co.,ltd ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 มีกลุ่มลูกค้า คือ ผู้บริโภคระดับกลางและระดับสูง ที่พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน จากระยะเวลาอันยาวนาน ลูกค้าทุกคนจึงมั่นใจได้ว่า Aconatic คือ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง

Aconatic AN-SP560 มาพร้อมระบบเสียง 2.1 Ch ซึ่งประกอบด้วย ลำโพงคู่หน้า, Subwoofer โดยไฟ LED สามารถเปลี่ยนสีสันได้ ช่วยเติมเต็มทุกอารมณ์สนุก ขนาดของดอกลำโพงคู่หน้า 2 นิ้ว, Subwoofer 8 นิ้ว มาพร้อมกำลังขับลำโพงคู่หน้าข้างละ 17.5 วัตต์, Subwoofer 35 วัตต์ สามารถรับสัญญาณวิทยุ FM ได้ และจดจำสถานีโปรด ได้ถึง 100 สถานี อีกทั้งยังรองรับไฟล์เพลง MP3, WMA ผ่านการเชื่อมต่อ USB นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไร้สาย ได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระยะ 10 เมตรอีกด้วย Bluetooth 4.0 ตัวสินค้ารับประกัน 1 ปี

คุณสมบัติอันโดดเด่นของ ลำโพง Aconatic AN-SP560

  • ระบบเสียง 2.1 Ch มาพร้อมลำโพงคู่หน้า และ Subwoofer
  • ขนาดดอกลำโพงคู่หน้า 2 นิ้ว, Subwoofer 8 นิ้ว
  • กำลังขับลำโพงคู่หน้า 17.5 วัตต์, Subwoofer 35 วัตต์
  • กำลังขับทั้งหมด 70 วัตต์
  • รองรับสัญญาณวิทยุ FM อย่างชัดแจ๋ว จดจำได้ถึง 100 สถานี
  • รองรับการเล่นไฟล์ประเภท MP3 และ WMA ผ่าน USB
  • เชื่อมต่อไร้สายกวยใจ ร่วมกับอุปกรณ์มากมายหลายชนิด ในระยะ 10 เมตร Bluetooth เวอร์ชั่น 4.0
  • ลำโพง Soundbar สามารถนำมาติดตั้งไว้ใต้ TV ได้อย่างลงตัว
  • สินค้ารับประกันยาวนานถึง 1 ปี !!
  • มีขนาด 35.8 x 38 x 6 เซนติเมตร
  • หนัก 6.5 กิโลกรัม

Aconatic เปิดตัวลำโพงสุดกระหึ่ม รุ่น AN-SP560 (BT) ที่มาพร้อมกำลังขับ 70 วัตต์ คุณจะได้สนุกสนาน ไปกับเสียงดนตรีคมชัด อันเต็มเปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพ ซึ่งมาพร้อมระบบเสียง 2.1 CH คุณจะได้สนุกสนานไปกับการฟังเพลงอย่างไร้ขีดจำกัด Aconatic AN-SP560 รองรับ หน้าจอ LED, สัญญาณ FM, USB, BLUTOOTH มาพร้อมดีไซน์สวยมีสไตล์แบบ TOWER, Aconatic AN-SP560 พร้อมมอบคุณภาพเสียงอันน่าหลงใหล โดยสิ่งที่คุณจะได้ คือ ระบบเสียงที่หลายๆ คนกำลังมองหา โดยคุณสามารถใช้ Aconatic AN-SP560 เป็นลำโพงในงานดนตรีได้อย่างเต็มอารมณ์ ในขณะวัสดุซึ่งนำมาใช้ทำลำโพงนั้น คัดเลือกมาจากวัสดุคุณภาพดี มีความแข็งแรงรวมทั้งมีความทนทานในระดับสูง ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับทุกความบันเทิงได้อย่างง่ายๆ Aconatic AN-SP560 ถือกำเนิดมาเพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ชื่นชอบความบันเทิงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลง

ราคาเปิดตัว 3,490 บาท

Bluetooth headphones

แนะนำ 5 หูฟัง bluetooth ออกกําลังกาย

‘การออกกำลังกาย’ จัดเป็นอีกหนึ่ง Life Style ของคนรุ่นใหม่ ที่รักและใส่ใจในสุขภาพ โดยจัดเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน อีกทั้งยังทำให้ร่างกายแข็งแรง สมองได้หลังสารแห่งความสุขออกมา และการออกกำลังกายจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้นไปอีก ถ้าได้ทำควบคู่ไปกับเสียงเพลง สำหรับในวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับ 5 หูฟัง Bluetooth ที่เหมาะกับการออกกําลังกายได้เป็นอย่างดี

แนะนำ 5 หูฟัง Bluetooth ถูกสร้างมาเพื่อคนรักออกกําลังกาย

  1. Jaybird RUN

หูฟังแบบ IEM ซึ่งมาพร้อมกับ Truly Wireless ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth 4.1 โดยรูปร่างดีไซน์ของ Jaybird RUN มีขนาดเล็ก กำลังพอดีรูหู, มีความทันสมัย อีกทั้งยังมี Wingtip ที่ทำให้คุณใส่ได้กระชับดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างหายห่วง

โดยจะมีปุ่มควบคุมการทำงานอยู่ทั้ง 2 ข้าง เป็นตัวที่ปรับฟังก์ชั่นเล่น-หยุด, เพิ่ม-ลดเสียง อีกทั้งยังมีความพิเศษอย่างสุดๆ คือ คุณสามารถเรียกใช้ Google Assistant (Android) หรือ Siri (Apples) ได้โดยปรับใน Application ของ Jaybird แน่นอนว่ารองรับได้ทั้ง iOS และ Android มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Li-ion polymer สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานสูงสุด 4 ชั่วโมง

  1. Bose Soundsport Wireless

มีความโดดเด่น คือ ดีไซน์สวยสะดุดตา มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เสริมทัพด้วย Ear Hook ซึ่งช่วยป้องกันการหลุดร่วงขณะออกกำลังกายอย่างรุนแรง มีสีสันให้เลือกมากถึง 4 สี ได้แก่ ขาว, ดำ, ฟ้า และเหลือง

Soundsport Wireless ตัวนี้ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผ่านระบบ Bluetooth อีกทั้งยังเชื่อมต่อรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น ด้วยระบบ NFC นอกจากนี้ Bose มาพร้อมกับเทคโนโลยี Tangle-Free ซึ่งจะทำให้สายหูฟังไม่พันกันเวลาที่คุณหยิบอีกด้วย

  1. JBL Under Armour

มีความสามารถรองรับต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายได้เป็นอย่างดี เน้นการสวมใส่ที่มีความกระชับคล่องตัว มีจุกแบบ Twist lock ป้องกันการหลุดได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบทรง Sport เหมาะกับผู้รักการออกกำลังกาย ข้อดีอีกประการ คือ มีสีให้เลือกอย่างหลายหลาย ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบามากๆ มีไมค์เพื่อใช้ในการพูดคุยในการรับสายเข้า โทรออก นอกจากนี้ยังปุ่มที่เพิ่มความสะดวกสบายมากมาย การใช้งานยาวนาน 8 ชม.

  1. i.Tech MusicBand 6300

แบรนด์ i.Tech เป็นแบรนด์ที่พึ่งเข้ามาในประเทศไทย หากแต่ในเรื่องของคุณภาพเทียบเท่าได้กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่เข้ามานานแล้ว รูปร่างและหน้าตา ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะแก่การออกกำลังกาย นอกจากจะคล้องคอได้แล้ว ก็ยังมีปีกบานออกมา เพื่อป้องกันการหลุดหล่นอีกด้วย

  1. Jaybird Freedom 2 Wireless

หูฟังจากค่าย Jaybird อีกคู่หนึ่งที่มาพร้อมประสิทธิภาพอันดีเยี่ยม ดีไซน์มีหน้าตาใกล้เคียงกับรุ่นแรก อีกทั้งยังมีสีให้เลือกกันมากถึง 3 สี โดยเอกลักษณ์ที่แตกต่างของรุ่นนี้ ก็คือ ‘จุกหูฟัง’ โดยใช้จุกเพียงแค่ชิ้นเดียวจากเดิม ทำให้สวมใส่ได้ง่ายขึ้น โดยใส่ได้ 2 แบบ คือ แบบปกติ กับแบบคล้องใบหู

Fishing with the most people

บ่อตกปลาที่มีคนนิยมมากจนต้องไปให้ได้

หากจะหาที่เที่ยวชิลล์ๆ ไปพร้อมกับครอบครัวหรือเพื่อนรู้ใจไปเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน น่าจะเป็นสถานที่ธรรมชาติ บรรยากาศดีๆ ดื่มด่ำไปกับอากาศบริสุทธิ์และต้องอิ่มท้องไปด้วย แนะนำบ่อตกปลาที่ไม่ได้มีแค่บ่อตกปลาให้คุณผู้ชายแต่เป็นมากกว่าบ่อตกปลาให้กับคุณผู้หญิงรวมถึงเด็กๆ ก็พักผ่อนหย่อนใจได้เต็มที่

บ่อตกปลาที่มีคนไปมากสุด

เริ่มต้นด้วย บ่อตกปลานัดพบ ฟิชชิ่งปาร์ค & สวนอาหาร บ่อตกปลาในกรุงเทพ สถานที่ขนาดใหญ่ให้ตกปลาแบบสนุก มีทั้งปลากด ปลากระโห้ ปลาบู่ ปลาบึก ปลาแรด มีสวนอาหารสำหรับครอบครัว บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนู นอนค้างคืนได้ ตื่นมารับบรรยากาศบริสุทธิ์ข้างบ่อตกปลาได้เลย ค่าบริการ ค่าเข้าเบ็ดคันละ 120 บาทต่อ 1 วัน อยู่แถวซอยราษฏร์อุทิศ 60

มงคลฟิชชิ่งปาร์ค บ่อตกปลากะพง เป็นบ่อปลาขนาดใหญ่ มีต้นไม้ให้ร่มเงา บรรยากาศร่มรื่น ถูกใจสำหรับคนที่ชื่นชอบปลากะพง ปลานิล ปลากดคัง ที่ต้องอึ้งกับปลาไซส์ยักษ์ ค่าบริการครั้งละ 200 บาท ก่อนกลับต้องชั่งปลาตามน้ำหนัก ปลากะพง 180 บาท ปลานิล 60 บาท ปลากดคัง 210 บาท หรือจะใช้บริการตกปลาบ่อพิเศษ ใช้บริการแบบเหมากรุ๊ป 10 คน ครั้งละ 1,000 บาท หากหิวยังมีร้านอาหารริมสระ รสชาติอร่อยไว้คอยให้บริการด้วย อยู่แถวอำเภอบางปะกง

บ่อตกปลาเอามันส์ ฟิชชิ่งปาร์ค บ่อตกปลาที่ไม่เหมือนใคร ตกครั้งเดียวได้รับทั้งปลาและเงินรางวัล เพราะนี้คือบ่อตกปลาที่แข่งขันโดยใครตกได้ 3 ชนิด เช่น ปลาสวายไซส์เอก ปลาสวายน้ำหนักสูงสุด ปลาบึกน้ำหนักสูงสุด ผู้ชนะเลิศรับเงินรางวัลที่มีมูลค่าสูงสุดถึง 30,000 บาท ไม่เพียงนั้นถ้าตกปลาได้น้ำหนักเลขงามอย่าง 4.44 กก. 5.55 กก. และ 6.66 กก. ก็รับรางวัลสูงสุดถึง 20,000 บาท โดยค่าสมัครจะต่างกันในแต่ละวัน วันอังคาร 500 บาท วันพฤหัสบดี 700 บาท วันเสาร์ 600 บาท วันอาทิตย์ 500 บาท อยู่แถว 3 แยกไฟแดง เยื้อง สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ

ปิดท้ายกันด้วย บ่อตกปลาศรีราชา เจเอ็มฟิชชิ่ง ที่นี่รวบรวมสายพันธุ์ปลาสารพัดซึ่งนักตกปลาต้องชื่นชอบ เพราะปลาตัวใหญ่ บรรยากาศเย็นสบาย ตกปลาเสร็จแล้วยื่นให้ร้านอาหารทำเมนูปลาเสิร์ฟถึงโต๊ะได้อีกด้วย เพลินเพลิดไปกับเสียงเพลง หรือคาราโอเกะในร้านอาหาร ให้ลูกค้าอิ่มท้องและอิ่มใจได้ในหนึ่งวัน ค่าบริการตกปลา 30บาท / 1คันเบ็ด ปลาชั่งออก 65 บาท / kg บ่อแห่งนี้อยู่ที่ หนองแขวะ (799.87 km) อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี

บ่อตกปลา สวรรค์ของนักตกปลา หากอยากจะพักผ่อนในวันหยุดต้องไม่พลาดกับ 4 สถานที่ที่คุณและครอบครัวต้องประทับใจ

Bluetooth put on the helmet

Bluetooth ใส่ไปในหมวกกันน็อคได้ง่ายในราคาที่ไม่แพงคุณภาพดี

ปัญหาของนักบิดมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อ ที่เป็นอุปสรรคในการขับขี่ยานพาหนะคงเป็นการรับสายโทรศัพท์เมื่อมีคนโทรเข้าแล้วต้องจอดรถข้างทาง ถอดหมวกกันน็อคแล้วรับสายใช่ไหม? หรือบางคนก็เสียบหูฟังไว้กับตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือใส่หูฟังไปตลอดเส้นทางบนถนน ดูแล้วค่อนข้างอันตรายมากทีเดียว เพราะกลัวสายหูฟังจะเกี่ยวติดเสื้อติดคอ พะรุงพะรังไปอีก แต่ถ้าซื้อ Bluetooth ติดหมวกกันน็อค ที่มีขายทั่วไปก็ราคาหลักพันบาทถือว่าแพงเอาเรื่อง สิ่งที่บอกมาไม่ใช่เรื่องยากถ้าคิดจะ DIY Bluetooth ติดหมวกกันน็อค ทำเองก็ได้ ในราคาสุดคุ้ม และมีคุณภาพ

ขั้นตอนการทำ DIY Bluetooth ติดหมวกกันน็อค

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  1. Bluetooth – เป็นบลูทูธมิวสิคต์ แบบ Speaker Audio Adapter ที่มีหูฟังและไมโครโฟนแยกกับตัวเครื่อง ในราคาถูกๆ ย่อมเยาว์ก็ใช้งานได้แล้ว
  2. หูฟังคอมพิวเตอร์ – เลือกแบบราคาถูกๆ ใช้งานได้ หรือแบบที่มีอยู่แล้วก็ได้
  3. ชุดตัดต่อสายไฟ – บัดกรี คัตเตอร์ ท่อหด เทปพันสายไฟ

ขั้นตอนการทำ

  1. แกะแยกสายไฟด้านในไมโครโฟน ชุด Bluetooth – ทำการแกะให้เห็นวงจรสายไฟด้านในที่มี 4 สาย คือ 2 สายของไมค์ และ 2 สายของหูฟัง การดูสายไฟจะเห็นอย่างชัดเจนตามสีเส้นและตัวเชื่อมโยง แล้วตัดออกให้เหลือแต่สายไฟ
  2. ถอดชิ้นส่วนไมโครโฟนคอมพิวเตอร์ออกมา – ไมโครโฟนคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับสอดใต้หมวกกันน็อค เพราะมีขนาดโค้งเว้าเข้ากับหมวกกันน็อค ทีนี้จึงทำการแยกส่วนระหว่างไมโครโฟน กับ ลำโพงของหูฟัง
  3. เชื่อมสายไมโครโฟนคอมพิวเตอร์มาแทนไมโครโฟนของ Bluetooth – ทำการเชื่อมสายไฟของไมโครโฟนเข้ากับ Bluetooth ทำการบัดกรีและหุ้มด้วยท่อหดเพื่อความแข็งแรงของสายไฟ ตอนใช้ท่อหดอาจะใช้ไดร์เป่าผมเพื่อให้ท่อหดยึดหุ้มสายไฟ
  4. เชื่อมสายหูฟังคอมพิวเตอร์ต่อเข้ากับ Bluetooth – ทำเช่นเดียวกับการเชื่อมไมโครโฟน ใช้บัดกรีและท่อหดยึดตาม เพิ่มระยะสายไฟไว้ให้ยาวด้วยเพื่อวางตำแหน่งหูฟังไว้ในหมวกกันน็อค
  5. จัดตำแหน่งลำโพง และไมโครโฟนให้เรียบร้อย – วิธีจัดอาจใช้การขันน็อตหรือติดกาวสองด้านไว้ หากสายยาวควรสอดสายไฟไว้ใต้นวมหมวกกันน็อคเพื่อถนอมสายไฟและความปลอดภัยของผู้ใช้
  6. ติดตำแหน่ง Bluetooth ด้านนอกหมวกกันน็อค – ติด Bluetooth ด้านซ้ายมือ โดยติดเทปกาวสองหน้า หรือขันน็อตเพื่อยึดแน่นไม่หลุดปลิวเวลาขับรถ จากนั้นอย่าลืมทดสอบบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือของคุณ

DIY Bluetooth ติดหมวกกันน็อค ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ได้ยุ่งยากเลย แถมยังราคาถูก ประหยัดงบได้อีกเยอะ หมดปัญหากับการรับสายโทรเข้า ให้คุณพูดคุยกับปลายสายได้ไม่ต้องจอดรถรับโทรศัพท์ และยังได้เพลิดเพลินกับการฟังเพลงระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย